Last updated: 24 ธ.ค. 2565 | 820 จำนวนผู้เข้าชม |
อาหารถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในงานแต่งงาน เพราะเรียกว่าได้สิ่งที่แขกผู้ร่วมงานใช้เวลาเป็นหลักอยู่กับการกินดื่ม ดังนั้นลองมาดูว่าควรเลือกการจัดการอาหารแบบไหน ที่เหมาะกับแขกในงานของเรา เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
บุฟเฟต์
อาหารงานแต่งแบบบุฟเฟต์มักจัดวางเป็นแนวยาว เน้นเมนูที่หลากหลาย แขกมีอิสระในการตักอาหารทานเอง ซึ่งโต๊ะญาติผู้ใหญ่จะมีบริกรเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ และจุดตักอาหาร 1 จุดควรรองรับแขกประมาณ 50 ท่าน
นอกจากนี้จะต้องมีพนักงานคอยแนะนำ และคอยจัดการคิวตักอาหารให้แขกรอไม่นาน เป็นไปได้ควรเลี่ยงให้แขกตักอาหารพร้อมกันจะดีที่สุด แม้ว่าค่าอาหารแบบบุฟเฟต์จะมีราคาแพงกว่าแยกจาน แต่ว่าสามารถประหยัดค่าบริกรและพนักงานได้มากกว่า เพราะว่าแขกสามารถบริการตัวเองได้ตามใจ
ข้อดีของบุฟเฟต์
- แขกได้เลือกอาหารที่ต้องการทานได้เอง
- แขกสามารถทานได้ตามความต้องการของแต่ละคน
- ประหยัดค่าบริการของพนักงานในการเสิร์ฟต่างๆ
ข้อเสียของบุฟเฟต์
- หากไม่จัดการจุดตักอาหารให้ดี แขกจะต้องต่อคิวรอนาน
- มีราคาที่สูงกว่าแบบอื่น เพราะต้องมีหลายเมนูในปริมาณมาก
ค็อกเทล
อาหารงานแต่งแบบค็อกเทลเหมาะกับการเน้นให้แขกได้พูดคุย พบปะ และเต้นหรือร่วมกิจกรรมต่างๆ ในงาน อาหารมักจะมีจัดเป็นซุ้มและมีบางเมนูที่บริกรจะเดินเสิร์ฟ ซึ่งอาหารจะถูกจัดเป็นคำ ๆ ให้ถือทานได้สะดวก โดยปกติราคาจะถูกกว่าอาหารงานแต่งแบบโต๊ะจีนและบุฟเฟต์เพราะเตรียมปริมาณอาหารน้อยกว่า เรียกว่าเป็นสีสันให้กับงานเวลาอาหารเดินออกมาเสิร์ฟที่ต่างกันตามช่วงเวลา
ข้อดีของค็อกเทล
- คู่บ่าวสาวเดินทักทายพูดคุยและถ่ายรูปกับแขกได้สะดวกมากกว่า
- เหมาะกับคู่รักที่ต้องการเชิญแขกที่มีความเป็นกันเองแต่ต้องการแนวงานแต่งที่โมเดิร์น
ข้อเสียของค็อกเทล
- ไม่สะดวกกับแขกเป็นผู้สูงอายุหลายท่าน เพราะต้องยืนแทบจะตลอดทั้งงาน อาจจะต้องจัดผังที่นั่งในกรณีที่มีแขกสูงอายุ
- ถึงแม้ราคาอาหารจะถูกลงแต่บางอาหารแนวนี้เพื่อให้ดูดี อาจใช้วัตถุดิบและการตกแต่งที่ละเอียด ซึ่งขึ้นอยู่กับแบบอาหารที่เราเลือก
โต๊ะจีน
โต๊ะจีนคืออาหารงานแต่งที่จัดเสิร์ฟเป็นโต๊ะ และคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายหัว ซึ่งคู่บ่าวสาวจะต้องมีจำนวนแขกที่แน่นอนพอสมควร ซึ่งเป็นแนวที่หลายครอบครัวค่อนข้างชื่นชอบ โดยจะมีการแบ่งโต๊ะหลักสำหรับญาติผู้ใหญ่คนสำคัญ ให้ความรู้สึกเป็นกันเองในโต๊ะ
แต่การจัดอาหารแบบนี้ก็อาจจะมีราคาที่สูงได้เพราะต้องเตรียมเมนูที่หลากหลาย โดยจะมีทั้งออเดิร์ฟ จานหลัก ขนมหวาน รวมถึงอาจต้องจัดโต๊ะเผื่อสำหรับแขกที่มาเกินจำนวน
ข้อดีของโต๊ะจีน
- เหมาะกับงานที่ต้องการให้แขกได้มีปฏิสัมพันธ์และพูดคุยกัน
- การจัดการค่อนข้างง่าย ไม่ต้องกังวลแขกเดินไปมาวุ่นวาย
- บรรยากาศบนโต๊ะอาหารจะเป็นกันเองมากกว่าการจัดอาหารงานแต่งแบบอื่น
ข้อเสียของโต๊ะจีน
- หากจำนวนแขกเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้จัดการค่าใช้จ่ายรายหัวได้ยาก
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเพราะมีทั้งค่าเช่าโต๊ะ ค่าเช่าเก้าอี้ ค่าพนักงานเสิร์ฟ ค่าโต๊ะสำรอง เป็นต้น
แต่ไม่ว่าจะจัดเลี้ยงอาหารงานแต่งแบบใดก็ควรเตรียมอาหารหลากหลายและเพียงพอต่อความต้องการของแขก และควรจะเตรียมอาหารให้เหลือดีกว่าขาด เพื่อสร้างความประทับใจต่อแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งก็หวังว่าบทความนี้ของทาง Pattana Gems จะช่วยในการตัดสินใจให้กับสาวๆ ที่กำลังจะจัดงานแต่งกันนะคะ
20 มิ.ย. 2567
14 มิ.ย. 2567
14 มิ.ย. 2567